วิธีการป้องกันมะเร็งที่ง่ายๆ
และราคาถูกที่สุด 10ประการ
1. รับประทานน้ำตาลให้น้อย
อาหารที่เซลล์มะเร็งชอบที่สุดคือน้ำตาล
หนังสือเรื่อง "ป้องกันมะเร็งอย่างไร" ของญี่ปุ่นชี้ว่า
ขณะที่เลือดไหลผ่านเซลล์เนื้องอก น้ำตาลในเลือดประมาณ 57% จะถูกเซลล์มะเร็งใช้ไปเป็นสารอาหาร
นิตยสารโภชนาการของสหรัฐอเมริการะบุว่า การดื่มน้ำหวาน
2 แก้ว จะทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนสูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 90% ดังนั้นใน แต่ละวันไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกิน
50 กรัม
2. เปิดหน้าต่างวันละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
มลพิษที่เกิดจากการตกแต่งบ้านนอกจากมีฟอร์มาลดีไฮด์แล้ว
ยังมีสารเรดอน ที่แฝงอยู่ในปูนซีเมนต์และกระเบื้องเคลือบ ถ้าคนเราหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน
จะทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดมะเร็งปอด
ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างวันละสักครึ่งชั่วโมงได้ ถ่ายเทอากาศภายในห้อง
ความเข้มข้นของฟอร์มาลดีไฮด์ก็จะลดลงถึงระดับเท่ากับภายนอก นอกจากนี้
การเผาไหม้ก็จะเกิดฟอร์มาลดีไฮด์ด้วย ดังนั้น เวลาต้มน้ำในห้องครัว
ควรเปิดหน้าต่าง และปิดประตูที่เชื่อมกับห้องนอน
3. รับประทานต้นหอมและกระเทียมทุกวันในจีน
มณฑลที่มีอัตราการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำที่สุดคือซานตง
ซึ่งเป็นมณฑลที่ผลิตต้นหอมและกระเทียมมาก เช่น ในอำเภอชางซาน มณฑลซานตง
เฉลี่ยแล้วแต่ละคนรับประทานกระเทียม 6 กิโลกรัมต่อปี
ผู้ที่ชอบรับประทานกระเทียมจะลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร 60%
กระเทียมต้องสด สับและวางไว้ในอากาศที่มีอากาศถ่ายเท
จึงจะเกิดสารป้องกันมะเร็งได้ ถ้า ผัด ทอด ต้มร้อนเกินไปสารต้านมะเร็งจะลดลง
6. เวลารับประทานอาหาร เคี้ยว 30 ครั้งก่อนกลืน
ผู้ที่กินข้าวเร็ว
มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารสูงกว่าผู้ที่กินข้าวช้า เนื่องจากน้ำลายมีบทบาทฆ่าเชื้อ
สามารถฆ่าเชื้อ AFT ที่จะก่อให้เป็นมะเร็งตับให้ตายภายใน
30 วินาที ดังนั้น ถ้าเคี้ยวครั้งหนึ่งใช้เวลา 1 วินาที จึงควรเคี้ยว30 ครั้งก่อนกลืนอาหาร
เพื่อป้องกันมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยระบบย่อยอาหารให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้นด้วย
7. เดินออกกำลังวันละ 20 นาที
แต่ละวันเดินเล่น 20 นาทีหลังอาหาร หรือแต่ละสัปดาห์เดินเล่น 4 ชั่วโมง
จะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ครึ่งหนึ่ง
สถาบันสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด(Harvard
University) ติดตามวิจัยคน 7 หมื่นคน พบว่า ถ้าเดินทางวันละ
1 ชั่วโมง จะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ครึ่งหนึ่ง
การเดินเล่นจะทำให้เหงื่อออก
ซึ่งจะช่วยขจัดสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งออกจากร่างกายได้
8.ตากแดดที่ยังไม่ร้อนวันละ 15 นาที
เป็นวิธีการป้องกันมะเร็งที่ประหยัดเงินมากที่สุด
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ การตากแดด เป็นเพิ่มวิตามิน D ภายในร่างกายให้มากขึ้น ใช้ป้องกันมะเร็งได้เลย การขาดวิตามิน D จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งรังไข่ และมะเร็งกระเพาะอาหาร
9. ดื่มไวน์ขณะรับประทานเนื้อ
ในเปลือกองุ่นมีสารชนิดหนึ่งที่สามารถป้องกันมะเร็งระบบย่อยอาหาร
การดื่มไวน์ขณะรับประทานเนื้อจะช่วยป้องกันสารพิษในเนื้อสัตว์ถูกดูดซึมเข้าสู่กระเพาะอาหาร
สมาคมวิจัยมะเร็งของสหรัฐฯ เสนอว่า แต่ละสัปดาห์ ควรรับประทานเนื้อหมู
เนื้อวัวหรือเนื้อแพะเพียงประมาณ 500 กรัม
ถ้ารับประทานเนื้อสัตว์มากเกินควร จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้
10 .นอนวันละ 7
ชั่วโมง
สมาคมวิจัยมะเร็งของสหรัฐฯ พบว่า
ผู้หญิงที่แต่ละคืนนอนไม่ถึง 7 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึง 47%
เพราะว่าเวลานอนหลับ ร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน(melatonin) ซึ่งมีบทบาทยับยั้งการเกิดฮอร์โมนเพศหญิง
จึงป้องกันมะเร็งเต้านมได้
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเตรียมเข้านอนก่อน 22.30 น. เข้านอนก่อน 23.00 น. ตื่นนอนเวลา 06.00-07.00 น. ในกลางวัน 13.00 น. เป็นเวลาที่ง่วงนอนที่สุด
ถ้าสามารถหลับซักพัก จะเพิ่มภูมิต้านทานให้สูงขึ้น ป้องกันมะเร็งได้
นอกจากวิธีการป้องกันมะเร็งดังกล่าวแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ยังพบว่า เซลล์มะเร็งมีช่วงพักตัว ช่วงพักยิ่งนาน
ผู้ป่วยยิ่งมีอัตรารอดสูง ปัจจุบัน
แวดวงการแพทย์พยายามแสวงหาวิธีการขยายเวลาการพักตัวของเซลล์มะเร็ง
รวมถึงการใช้ยาและการรับประทานอาหาร โดยแนะนำอาหารบางอย่างที่สามารถช่วยให้เซลล์มะเร็งหลับพักได้นาน
รวมถึง กะหรี่ พริก ขิง ชาเขียว ถั่วเหลือง มะเขือเทศ องุ่น กระเทียม และบร็อคโคลี่ (broccoli)
เชี่ยวชาญญี่ปุ่นมีทฤษฎีว่า
เซลล์มะเร็งกลัวอุณหภูมิสูง เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่า 35 องศา เซลล์มะเร็งจะคึกคักมากและขยายแพร่กระจายได้มากที่สุด
แต่เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 39.6 องศา เซลล์มะเร็งจะตายหมด
มะเร็งเกิดขึ้นเพราะภูมิต้านทานต่ำลง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเลือดอย่างใกล้ชิด
ถ้าเลือดสะอาด ขับสารพิษออกไป สุขภาพก็จะแข็งแรงขึ้น
การมีไข้ขึ้นก็เพราะร่างกายต้องการขับสารพิษหรือขยะออกจากเลือด เพื่อเสริมภูมิต้านทาน
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศา ภูมิต้านทานจะเพิ่มขึ้น 5-6 เท่า แต่ถ้าต่ำลง 1 องศา ภูมิต้านทานจะลดลง 30% ขณะที่อุณหภูมิร่างกายต่ำที่สุดจะเป็นเวลาที่อัตราการตายสูงที่สุด
การป้องกันโรคอื่นๆ
ก็ควรพยายามปรับอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้นเช่นการออกกำลังกาย การอาบน้ำอุ่น
การรับประทานอาหารที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย รวมถึงขิง กระเทียม ต้นหอม
แอปเปิล เชอร์รี น้ำตาลทรายแดง ชาแดง ปลาและหอย การดื่มชาแดงใส่ขิงสด
จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้
การดื่มน้ำอุ่นก็ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย แก้อาการท้องผูก ลดความอ้วน
และเสริมสวยได้ด้วย
การเสริมภูมิต้านทาน
ป้องกันมะเร็งและโรคเรื้อรังชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องกินยาราคาแพง
เพียงใช้วิธีการดังกล่าวก็สามารถได้ผลที่น่าพอใจได้
อีกทั้งยังประหยัดเงินได้มากด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น