วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

อร่อย ติด ตายผ่อนส่ง

น้ำหวานฆ่าคนตายนับแสน


สถาบันฟรีดแมนด้านโภชนาการศาสตร์และนโยบายแห่งมหาวิทยาลัยทัฟส์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า ความหวานจากน้ำหวานประเภทน้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา และชาเย็นบรรจุขวด ที่กำซาบซ่านบนลิ้นนั้น เป็นอันตรายถึงกับชีวิตได้ หากมีการบริโภคมากจนเกินไป



การศึกษาของทีมวิจัยแห่งสถาบันฟรีดแมนฯ อาศัยการวิเคราะห์สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตใน 50 ประเทศ ประกอบกับการทำวิจัยเกี่ยวกับปริมาณการบริโภคน้ำตาลของประชาชนในประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลอ้อย น้ำตาลจากหัวบีท และ น้ำหวานจากข้าวโพดที่อุดมไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตส ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องดื่มรสหวาน

          ทีมวิจัยชี้ว่า ใน 20 ประเทศที่มีการบริโภคน้ำหวานสูงสุดของโลก มีประเทศในกลุ่มละตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียนมากถึง 8 ประเทศ เช่น เม็กซิโก ที่มีประชากรเป็นโรคเบาหวานมากกว่า 10% มีอัตราผู้เสียชีวิตเพราะดื่มน้ำหวานมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร




          ตรงกันข้ามกับญี่ปุ่น ที่ประชาชนนิยมดื่มชาที่ไม่ผสมน้ำตาลเป็นหลัก จึงมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพราะการบริโภคน้ำหวานน้อยมากอย่างไม่ต้องสงสัย

          ขณะที่ชาวอเมริกันที่บริโภคน้ำตาลเฉลี่ย 22.2 ช้อนชาต่อวัน (เทียบเท่ากับพลังงาน 355 แคลอรี) จากการบริโภคอาหาร และ เครื่องดื่มผสมน้ำตาลเป็นหลักก็มีผู้เสียชีวิตเพราะโรคที่เกี่ยวข้องกับความหวานในระดับสูงดังที่กล่าวมาแล้ว

          ในน้ำอัดลมขนาด 12 ออนซ์ (355 ซีซี) จะมีน้ำตาลผสมอยู่ราว 10 ช้อนชา ซึ่งสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาเตือนประชากรชาวอเมริกันว่า ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค ซึ่งถ้าต้องการบริโภคน้ำอัดลมก็ควรเลี่ยงไปดื่มเครื่องดื่มที่ใช้สารทดแทนความหวานของน้ำตาลแทน




          ทางฝั่งผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลยสังคมอย่าง สมาคมผู้ผลิตเครื่องดื่ม ที่เป็นตัวแทนของผู้ผลิตเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ในแดนมะกันรีบออกมาตอบโต้การเปิดเผยผลวิจัยฉบับนี้ ว่า ผลการวิจัยไม่ได้บ่งชี้ว่า การบริโภคเครื่องดื่มผสมน้ำตาลเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง และผู้เขียนผลงานวิจัยฉบับนี้ก็ทราบดีว่า มีการให้คำแนะนำการบริโภคเครื่องดื่มผสมน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสมต่อผู้บริโภคแล้วเช่นกัน

เฉพาะภายในปี 2556 ผู้ที่นิยมความหวานจากเครื่องดื่มทั่วโลกต้องสังเวยชีวิตกว่า 184,000 ราย และในจำนวนนี้เป็นพลเมืองในสหรัฐอเมริกามากถึง 25,000 ราย



ความหวานในน้ำหวานกระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง ที่เป็นต้นเหตุทำให้ผู้บริโภคตาย


มีหลักฐานชี้ชัดว่า น้ำตาลในน้ำหวานก่อให้เกิดโรคอ้วน และโรคอ้วนก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไร้เชื้อเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไต ที่มีส่วนส่งเสริมให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 17 ล้านคนทั่วโลกต่อปี
          เพียงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มักจะเกิดกับคนที่เป็นโรคอ้วน ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 133,000 รายต่อปี
          โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันก็คร่าชีวิตพลเมืองโลกราว 45,000 ราย


           ส่วนมะเร็งที่เกิดในกลุ่มคนเป็นโรคอ้วนสังหารคนไปราวปีละ 6,450 ราย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น